ต้องยอมรับว่าเรื่อง ปัสสาวะ เป็นสิ่งใกล้ตัวเราทุกคน เพราะในแต่ละวัน คนทั่วไปปัสสาวะวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3  – 4 ครั้ง แล้วมีใครสังเกตปัสสาวะของตัวเองบ้างไหม เพราะการเช็กสีปัสสาวะสามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพของเราได้อย่างคาดไม่ถึง โดยสีปัสสาวะอาจมีปัจจัยต่าง ๆ ทำให้มีลักษณะที่แตกต่างกันไป เช่น อาหาร เครื่องดื่ม หรือ ยา ที่เราทานเข้าไป รวมไปถึง ปัญหาสุขภาพที่เราเองก็อาจไม่เคยรู้ตัวมาก่อน 

สีปัสสาวะปกติเป็นแบบไหน 

ปัสสาวะที่มีความปกติจะมีสีเหลืองอ่อน ใส ไม่ขุ่น ยิ่งปัสสาวะสีเหลืองใสมากเท่าไร แสดงว่ามีการดื่มน้ำมาก ซึ่งไม่มีอันตรายและไม่น่าเป็นห่วง แต่ถ้าหากคุณดื่มน้ำมากแต่กลับมีปัสสาวะสีเหลืองขุ่น หรือดื่มน้ำน้อยแต่มีสีปัสสาวะขาวใส อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณกำลังมีปัญหาสุขภาพ 

สีปัสสาวะบอกอะไรได้บ้าง 

ปัสสาวะขาวใส ไม่มีสี 

แสดงว่าดื่มน้ำมากกว่าปริมาณที่แนะนำให้ดื่มในแต่ละวัน ทำให้ระดับเกลือแร่ต่ำเกินไป ในบางรายที่มีเกลือแร่ต่ำมากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย เกิดความอ่อนเพลีย และเสียชีวิตได้ หากปัสสาวะใสเป็นบางครั้ง หรือเป็นเฉพาะเวลาที่ดื่มน้ำมากเท่านั้น ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ควรลดปริมาณการดื่มน้ำให้น้อยลง โดยดื่มให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย แต่ถ้าหากมีปัสสาวะสีใส โรคไต โรคเบาหวาน อาจกำลังเล่นงานคุณอยู่  

ปัสสาวะสีขาว ขุ่น 

มักจะพบในคนที่ดื่มนมมากจนทำให้เกิดผลึกฟอสเฟต หรือมีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคกรวยไตอักเสบ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือ การมีโปรตีนในร่างกายมากเกินไป  

ปัสสาวะสีเหลืองสด 

ปัสสาวะสีเหลืองสด หรือ สีเหลืองนีออน เกิดจากการกินอาหารเสริม หรือวิตามินมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ ไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการกินอาหารเสริมหรือวิตามิน 

ปัสสาวะสีส้ม 

ปัสสาวะสีส้มเกิดจากการดื่มน้ำน้อยเกินไป ร่างกายขาดน้ำ หรือ การที่กินแครอท อาหารที่มีวิตามินบี 2 ในปริมาณมาก รวมไปถึงผลข้างเคียงจากการกินยาบางชนิด เช่น ยาไอโวไนอาซิด ยาซัลฟาซาลาซีน หรือ ยาระบายบางประเภท นอกจากนี้ ปัสสาวะสีส้ม อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับตับหรือถุงน้ำดีได้เช่นกัน 

ปัสสาวะสีแดงหรือสีชมพูเข้ม 

ปัสสาวะสีชมพูเข้มไปจนถึงสีแดง อาจเกิดจากการกินอาหารบางชนิด เช่น กระเจี๊ยบแดง บีทรูท บลูเบอร์รี่ เป็นต้น หากเป็นในกรณีนี้ถือว่าไม่มีอันตรายใด ๆ  แต่ถ้าเกิดจากการมีเลือดเจือปนอยู่ในปัสสาวะ หรือเกิดจากโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โรคนิ่วในไต โรคไต มีเนื้องอกที่ไต , กระเพาะปัสสาวะ หรือที่ต่อมลูกหมาก ย่อมส่งอันตรายต่อสุขภาพตามมาแน่นอน ต้องไปพบแพทย์ 

ปัสสาวะสีน้ำตาล

ปัสสาวะสีน้ำตาลคล้ายสีชา เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพยาเสพติด หรือเกิดจากสลายตัวของกล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บ หรือมีภาวะตับอักเสบ มีระดับ bilirubin สูง จนทำให้ต้องขับออกทางปัสสาวะ หากพบว่าปัสสาวะมีสีน้ำตาลคล้ายชา ให้รีบพบแพทย์ทันที 

ปัสสาวะสีฟ้า 

ปัสสาวะสีฟ้าอาจพบได้ยาก แต่สามารถพบได้เช่นกัน โดยมักจะเกิดจากโรคทางพันธุกรรมเมตาบอริกที่หายาก ที่มีผลให้แคลเซียมในเลือดสูงผิดปกติ (Blue diaper syndrome) หรือการได้รับเชื้อจากแบคทีเรียที่ก่อใก้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือเกิดจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาอาการซึมเศร้าอะมิทริปไทลีน ยาแก้ปวดอินโดเมทาซิน และรวมไปถึงจากสีผสมอาหารสีน้ำเงิน 

ปัสสาวะสีเขียว 

ปัสสาวะสีเขียวอาจเกิดจากการพืชผักบางชนิดที่กินเข้าไป เช่น ผักแอสพารากัส หรือการใช้ยาบางชนิด รวมไปถึงสีผสมอาหารสีเขียว ก็ส่งผลให้ปัสสาวะมีสีเขียวได้ หรือ การติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ก็ไม่ควรมองข้าม หากพบว่าปัสสาวะสีเขียวโดยไม่ทราบสาเหตุ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ 

ปัสสาวะสีม่วง 

ปัสสาวะสีม่วงจะค่อนข้างหายาก แต่ส่วนใหญ่จะพบได้ในผู้ป่วยที่ใส่ท่อสวนปัสสาวะ ซึ่งมักจะเป็นผู้ป่วยสูงอายุ หรือ ผู้ที่ใส่สายสวนปัสสาวะที่มีอาการติดเชื้อ โดยปัสสาวะสีม่วงมีชื่อเรียกเฉพาะว่า Purple urine bag sydrome 

อย่างไรก็ตาม เมื่อพบว่าปัสสาวะมีสีที่ผิดปกติโดยไม่มีสาเหตุติตด่อนานหลายวัน โดยเฉพาะเมื่อปัสสาวะมีสีชมพูค่อนไปทางแดง หรือ ปัสสาวะสีน้ำตาลคล้ายสีชา หรือมีสีส้ม อุจจาระซีด ผิวหนังและดวงตาเหลืองซีด ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจสอบ หากมีสิ่งผิดปกติจะได้ทำการรักษาได้ทัน